TH

ก่อนตัดสินใจเลี้ยงกระต่าย ต้องรู้อะไรบ้าง

ก่อนตัดสินใจเลี้ยงกระต่าย ต้องรู้อะไรบ้าง
เขียนเมื่อ 23 พ.ค. 2560   |   โดย ศรุดาภา   |   มีคนอ่านแล้ว 115657 คน


ก่อนตัดสินใจเลี้ยงกระต่าย ต้องรู้อะไรบ้าง






ด้วยความที่กระต่ายเป็นสัตว์หน้าตาน่ารัก ขนนุ่ม ไม่ส่งเสียงร้องดังรบกวนผู้เลี้ยง กระต่ายจึงเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมที่ผู้คนมักจะหามาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนแก้เหงา โดยเฉพาะคนหนุ่มสาวที่พักอาศัยในหอพัก อพาร์ทเม้นท์หรือคอนโดเพราะมีความคิดที่ว่ากระต่ายไม่จุกจิก เลี้ยงในกรงและให้อาหารตามเวลาก็อยู่ได้ ความจริงแล้วกระต่ายเค้าจะมีพฤติกรรมบางอย่างผู้ที่จะเลือกเลี้ยงเค้าต้องทำความเข้าใจก่อนด้วย หากไม่เข้าใจหรือรับพฤติกรรมแปลกๆของเจ้าตัวน้อยไม่ได้อาจมีการต้องแยกจากกันกลางทาง หรือเลี้ยงไม่รอดนั่นเอง




พฤติกรรมของกระต่าย





1.การกินมูลตัวเอง


   นี่ถือเป็นพฤติกรรมธรรมชาติของกระต่ายโดยทั่วไป ซึ่งในมูลของกระต่ายจะมีวิตามินบี โปรตีนและแบคทีเรียชนิดดีอยู่ การกินมูลของตัวเองเป็นการปรับลำไส้ของเค้าให้เป็นปกติในทุกเช้า ลักษณะของมูลกระต่ายจะก้อนกลมเล็กออกมาเป็นพวงคล้ายพวงองุ่น อาจมีกลิ่นฉุนบ้างหากกระต่ายกินจำพวกผักหรือหญ้ามากเกินไป


2.การแสดงอาณาเขต


    เกิดขึ้นได้ทั้งกับเพศผู้และเพศเมีย วิธีการแสดงอาณาเขตคือการฉี่ไว้ในที่ของตนโดยตัวผู้จะมีอาการหวงที่มากกว่าตัวเมีย หากมีใครหรือกระต่ายตัวอื่นเข้าใกล้ขอบเขตของตนจะแสดงอาการก้าวร้าวเช่นการคำรามในลำคอหรือขู่หากเป็นกระต่ายที่เลี้ยงไว้ตัวเดียวจะมีอาการหวงที่มากอาจมีการงับหรือกัดผู้บุกรุกอาณาเขตของตน นอกจากการฉี่แล้วยังมีการเอาคางไปถูกับสิ่งของบริเวณนั้นๆเพื่อเป็นการแสดงความเป็นของสถานที่อีกด้วย


3.การขุด


เป็นสัญชาติญาณของกระต่ายที่จะขุดโพรงเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย การขุดเป็นการทำให้เล็บของเค้าสั้นลง เป็นข้อดีของผู้เลี้ยงที่ไม่ต้องเสียเวลาตัดเล็บให้กระต่ายบ่อยๆ แต่หากเลี้ยงในหอพักที่เป็นพื้นกระเบื้องไม่มีอะไรรองการขุดเล็บของกระต่ายแล้วอาจมีเสียงที่น่าหงุดหงิดใจอยู่บ้างสำหรับผู้เลี้ยง ส่วนตัวเมียนั้นหากมีการขุดมากเกินปกตินั่นอาจหมายถึงกระต่ายกำลังหาที่เพื่อคลอดลูก ผู้เลี้ยงจึงต้องรีบจัดเตรียมสถานที่ทำคลอดไว้ให้กระต่ายด้วย







4.การกัดแทะสิ่งของ


   แน่นอนว่ากระต่ายเป็นสัตว์ฟันแทะ และเค้าก็จะแทะข้าวของทุกอย่างที่สามารถแทะได้เช่นสายไฟ หนังสือ รองเท้า กระเป๋า เพื่อเป็นการลับฟันไม่ให้งอกยาวออกมา เพราะฉะนั้นหากตัดสินใจเลี้ยงกระต่ายแล้วล่ะก็ผู้เลี้ยงจะต้องระมัดระวังเรื่องการเก็บข้าวของทุกอย่างไว้ให้พ้นรัศมีการแทะของกระต่ายด้วย ไม่เช่นนั้นผู้เลี้ยงอาจเกิดอารมณ์ตึงๆจนไม่อยากเลี้ยงกระต่ายอีกเลยหากเค้าไปกัดแทะสิ่งของสำคัญเข้า


5.การนอน


   หลายคนเข้าใจว่ากระต่ายเป็นสัตว์ขี้เกียจคือกินกับนอนในตอนกลางวัน จริงๆแล้วกระต่ายเป็นสัตว์ที่ออกหากินตอนกลางคืนและนอนในตอนกลางวันแต่ด้วยพฤติกรรมการนอนของกระต่ายไม่ตรงกับเวลานอนของคนเลยทำให้เราเข้าใจผิดไปอย่างนั้น กระต่ายเป็นสัตว์ที่มีความระวังตัวสูงมากบางครั้งที่เราเห็นว่าเค้านั่งๆหลับตานั่นคือเค้ากำลังนอนหลับแต่ด้วยสัญชาติญาณการระวังตัวของกระต่ายเลยทำให้เรามักจะเห็นกระต่ายนั่งหลับเสมอ


6.การเคาะเท้า

    หากกระต่ายเกิดความเครียดหรือรู้สึกว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในความไม่ปลอดภัยเค้าจะเค้าะเท้าหรือกระโดดขึ้นลงเพื่อให้เกิดเสีียงซึ่งเป็นความตื่นตัวและเป็นการเตือนภัยสำหรับกระต่ายด้วย


7.การจับหรือการอุ้ม


หลายคนยังมีความเข้าใจผิดๆเรื่องการหิ้วที่หูของกระต่ายเพื่อไม่ให้กระต่ายดิ้น ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเลยเพราะที่หูของกระต่ายมีเส้นประสาทอยู่จำนวนมาก ลองมองหูกระต่ายผ่านแสงแดดเราจะเห็นเส้นเลือดอยู่จำนวนมาก หากหิ้วที่หูของกระต่ายนั่นหมายถึงหูของเค้าจะต้องรับน้ำหนักตัวทั้งหมดส่งผลให้กระต่ายได้รับบาดเจ็บ ที่สำคัญคืออาจทำให้ใบหูฉีกขาด การอุ้มกระต่ายที่ถูกวิธีคืือการจับเนื้อส่วนหลังในอุ้มและใช้มือช้อนและประคองที่เท้าเพื่ออุ้มกระต่ายไว้เป็นการช่วยรับน้ำหนักทั้งหมดของกระต่าย



โรคที่ต้องระวังในการเลี้ยงกระต่าย


1.โรคฝี

      เกิดจากการติดเชื้อใต้ผิวหนัง ลักษณะเป็นก้อนที่คลำพบได้ที่ผิวหนัง ในก้อนที่คลำพบนั้นจะมีหนองอยู่ต้องรอให้ฝีสุกจึงเจาะเอาหนองออกได้


2.ฮีทสโตรก

      กระต่ายมีการระบายความร้อนอกจากร่างกายผ่านทางหูเพียงทางเดียวเท่านั้น ทำให้กระต่ายไวต่อโรคฮีทสโตรกมาก เมื่อเกิดภาวะนี้ขึ้นจะทำให้กระต่ายหายใจหนัก อ่อนเพลีย อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น หากเป็นเช่นนี้ควรนำกระต่ายไปไว้ในที่เย็นหรือจุ่มตัวกระต่ายลงน้ำเย็น


3.เห็บหมัด

     สามารถเกิดได้กับสัตว์เลี้ยงทั่วไปที่มีขนยาวปกคลุม ซึ่งอาการที่สังเกตได้คือกระต่ายจะผิวแห้ง เป็นรังแค และจะคันตามตัว ควรพากระต่ายไปพบสัตวแพทย์เพื่อรับยากำจัดเห็บหมัด


4.ฉี่เป็นเลือด

      สีปัสสาวะของกระต่ายปกติคือสีเหลือง แต่ในบางครั้งเราสามารถพบปัสสาวะสีอื่นๆ เช่น สีแดง น้ำตาล ส้ม ซึ่งส่วนใหญ่เจ้าของกระต่่ายจะบอกหมอว่า "กระต่ายฉี่เป็นเลือด" สาเหตุของสีที่เปลี่ยนไปมาจากหลายสาเหตุเช่น สารสีจากพืชที่เรียกว่าพอร์ไฟรินสารตัวนี้จะทำให้ฉี่กระต่ายเป็นสีแดง อาการนี้ไม่เป็นอันตรายใดๆโดยมากจะหายไปเองใน2 วัน นอกจากนี้ยาปฏิชีวนะ ภาวะการขาดน้ำหรือความเครียดก็อาจส่งผลให้ฉี่ของกระต่ายเปลี่ยนสีได้เช่นกัน





       การจะตัดสินใจเลี้ยงสัตว์เลี้ยงชนิดใดก็ตามต้องมีการศึกษาข้อมูล ทำความเข้าใจเสียก่อนไม่เช่นนั้นแล้วอาจเกิดปัญหาอื่นตามมาเช่นการทอดทิ้งสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้แล้วสถานที่ในการเลี้ยงสัตว์ก็ต้องมีความเหมาะสมด้วยเช่นเรื่องของอากาศถ่ายเทสะดวก ความสะอาด ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือความรักและความเอาใจใส่สัตว์เลี้ยง มีเวลาในการดูแลเค้ามากพอหรือไม่เพราะเมื่อตัดสินใจจะเลี้ยงสัตว์หนึ่งชีวิตแล้วนั่นหมายถึงเราต้องดูแลเค้าไปตลอดอายุขัยของเค้าด้วย 




ข้อมูลบางส่วนมาจาก


https://pet.kapook.com

www.catdumb.com

www.bunnydelight.com

TH
รถเข็นสินค้า

รถเข็นสินค้าของคุณว่างเปล่า
สินค้า จำนวน รวม